ห้องที่ ๒๐ : พระเจ้าราชวรวงษเธอ พระองค์เจ้าบุตรี


          องค์พระหริรักษเรื้องฤทธา นุภาพเอย
เสด็จลุฝั่งชลาลาศเต้า
ชายชมพนัศคณามฤคปัก ษีนอ
จรจวบประเวศเข้าสู่แคว้นสวนขวัญ
          ไป่ทันประจักษแจ้งสำคัญ
ว่าอสุรเศกสรรค์ปลูกสร้าง
ยูรยาตรประพาศพรรณผลดอก เฌอนา
พลยักษวางวิ่งคว้างไขว่ล้อมเกรียวกรู
          ภูมินทร์วรนารถน้องนรินทร
ทรงจับคันศรรอญราพร้าย
บ้างเจบป่วยบ้างมรณ์เหลือปลาศ หลบแฮ
พระเสดจยูรยาตรผ้ายผาดเต้าตามทาง
          บัดนั้นพิราพร้ายเรืองฤทธิ
จวบเจ็ดทิวาคิศใคร่ผ้าย
สรวมสอดรัตนพิจิตรอ่าอาตม์
จับหอกทยานย้ายยาตรเข้าไพรสัณฑ์
          จับสัตวกินอิ่มแล้วดึงลัดา มานอ
ผูกบาทคชคอนคลาคลาศคล้อย
ถึงสวนพิศพฤกษาเหนหัก รทมเอย
บ่าวเจ็บตายกว่าร้อยโกรธฟุ้งตวาดถาม
          รากษษบอกเหตุแจ้งจบความ
พิราพโกรธโลดตามติดต้อน
เหนมนุษย์รูปงามสามคนไต่ ทางนา
นึกรักนางรุ่มร้อนจิตรเอื้อนอ่านมนต์
          อากาศมัวมืดแม้นสนทยา
โจมจับพระรัตนนาเรศร้อง
สองแว่วศับทสีดาเสด็จเที่ยว ด้นแฮ
หาพนิตห่อนพ้องราพร้ายพาหนี
          จักรีกรก่งแก้วเกาทัณฑ์ แผลงเอย
หายมืดเหนมารผันผกเต้า
พระตามราพทันพลันโถมแย่ง อนุชนา
มารยุทธพระทยานเข้าจิกเกล้าศรปรหาร
          พิราพเจ็บพ่างสิ้นชีวิตร
แกว่งหอกกลอกกายบิดต่อแย้ง
พระลักษณเหยียบเอวกฤษณ์เหยียบบ่า ราพเฮย
มารสบัดพลัดหลุดแว้งเหวี่ยงไท้โถมแทง
          พระสี่กรเหนี่ยวน้าวสายศร
พรหมมาศมุ่งอุระบรลั่นมล้าง
ต้องอกพิราพนอนอนาถนิร ชีพแฮ
ทวยเทพออกโอษฐอางชเยศอื้อเออกถวาย
          ภูวนารถพานาฎน้องจรลี
มาประสบเสาวรีไต่เต้า
พระถามเหตุเทวีทูลเล่า ถวายแฮ
ข้าผิดเพราะขาดเฝ้าบาทเบื้องพระศุลี
          พระกริ้วตรัสสาบให้เพลิงลาม ป่านา
แล้วสาบข้าคอยยามกฤษณ์ไท้
อวตารเสดจปรามปราบหมู่ อสูรแฮ
เชิญดับอัคนีได้กลับขึ้นคืนสวรรค์
          พระอวตารเสดจเต้าตามอนงค์ นำแฮ
ถึงที่ลั่นศรทรงครั่นครื้น
เปนพิรุณร่วงโรยลงดาลดับ เพลิงนา
นางเสรจสมจิตรอื้นโอษฐเอื้อนถวายพร
          ภูมีศวรราชเจ้าอนุเคราะห์ นางแฮ
นางชุลีลาเหาะผาดผ้าย
ตั้งภักตร์มุ่งจำเภาะไกรลาศ
ลอยลิ่วไปคล้ายคล้ายลับห้องหาวหาย
          สามกระษัตริย์ยูรยาตรเยื้องคลาไคล
ดั้นดัดลัดเลียบไศลป่ากว้าง
บันลุถิ่นอาไศรยนักสิทธิ
อรรคตะดาบศสร้างพรตช้านานหึง
          เสดจสู่สำนักนิ์น้อมวันทนา
พระอรรคตะสิทธาซักไซ้
รู้ว่าพระเทพาวตารปราบ ยักษแฮ
แถลงเหตุครั้งศิวะให้ท่านล้างตรีบุรำ
          เล่าพลางหยิบเกราะแก้วสุรการ
ถวายแด่องค์อวตารท่านไซร้
อื้นอวยพระพรชาญไชยสิทธ พระเทอญ
แสนส่ำอสุรนั้นให้พ่ายแพ้ฤทธี
          นรินทรราเมศรเรื้องรังสรรค์
รับเกราะจากนักธรรม์ท่านแล้ว
แสนโสรมนัศหรรษาสบ ประสงค์เฮย
พลางพระโอนมกุฏแก้วนอบเกล้าลาจร
          ภูวเรศร์ประเวศรเข้าไพรรหง
ภอสุริยอัศฎงค์ลงลับไม้
อาไศรยพฤกษโสกทรงเสาวรศ จรุงเฮย
ลมเฉื่อยชื่นฤไทยไท้ท่านยั้งบันทม
          ปางองค์อมเรศเจ้าไตรตรึงษ
หลากจิตรคิดรำพึงเพ่งรู้
ว่าพระจักรกฤษณคนึงหาที่ เร้นแฮ
ให้สงัดห่างคนผู้จักตั้งตระบะฌาน
          นำเทพยบริสัชห้อมเหาะมา
บันลุแนวโคธาฝั่งน้ำ
นฤมิตรประสิทธิอาศรมบศ สามเฮย
จาฤกอักษรซ้ำบอกไว้ในบาน
          พระพงษพิศณุเทพยไท้ภุชพล
ผธมณรุกขมณฑลจวบแผ้ว
แสงทองถ่องนภดลอร่ามเรื่อ อรุณเอย
สกุณไก่ขันเอื่อยแจ้ววิหคร้องเริงเสียง
          สางแสงพระฟื้นสร่างนิทรา
พาพระลักษณ์นางสีดาไต่เต้า
เลียบทางหว่างภูผาพนพฤกษ
เหนกุฎิกลางดงเข้าสถิตยใกล้ทวารา
          ทรงอ่านอักขรแจ้งสำคัญ
ทราบว่าตรีเนตรสรรค์สฤษดิไว้
เปนที่ประพฤติบรรพ์ชิตกิจ
ควรสถิตย์ที่นี้ได้ศุขด้วยพรหมจรรย์
          จึ่งมีมธุรพจนเอื้อนโองการ
แด่อนุชนงค์พาลเพื่อนไร้
อาศรมทิพย์บัณศาลที่สถิตย นี้นา
อมเรศนฤมิตรให้ยับยั้งอาไศรย
          พลางชวนพระขนิฐทั้งเทพี
ออกจากทิพยมณฑรีบ่ช้า
เสดจลงสู่สระศรีสนานโสรด สกนธ์แฮ
ดาดื่นประทุมห้าเหล่าพ้นชลไสว
          บ้างตูมบานเบิกแย้มเกสร
กลาดอุบลลอยสลอนเกลื่อนน้ำ
ทรงเด็ดประทานอรอรรคเรศ
คลายเมื่อยเหนื่อยเหน็บช้ำสร่างร้อนสำราญ
          สมเดจภูวนารถเจ้าจักรพงษ
เสด็จกลับบริเวณคงนิเวศนด้าว
อาไศรยกุฎีทรงประพฤติ พรตแฮ
กับวนิตน้องท้าวเพื่อนไท้สถิตยดง

จบห้องที่ ๒๐


  เนื้อความกล่าวถึงพระราม พระลักษณ์ นางสีดา เดินทางเข้าไปในสวนของยักษ์พิราพโดยไม่รู้ว่าล่วงล้ำเข้ามาในสวนของยักษ์ บรรดายักษ์บริวารก็กรูเข้าล้อมจับ พระลักษณ์แผลงศรต้องยักษ์ทั้งเจ็บทั้งตายมากมาย ที่เหลือรอดพากันหนีไป ทั้งสามองค์ก็เสด็จออกจากสวน ๗ วันต่อมายักษ์พิราพมาชมสวนเห็นต้นไม้หักระเนระนาด เห็นบริวารบาดเจ็บและตายเกลื่อนกลาด ก็โกรธ เมื่อทราบความจากบริวารแล้วก็โลดแล่นตามไปทันกษัตริย์ทั้งสาม ยักษ์พิราพเห็นนางสีดาก็นึกรัก ร่ายมนตร์ให้ท้องฟ้ามืดมิด แล้วจับตัวนางสีดาไป พระรามแผลงศรให้ท้องฟ้าสว่าง เมื่อตามไปทันก็ชิงนางสีดามาได้ และแผลงศรฆ่ายักษ์พิราพ พระราม พระลักษณ์ นางสีดา เดินทางต่อไปพบนางเสาวรีซึ่งถูกพระอิศวรลงโทษสาปให้ทรมานอยู่ในป่าเพลิงคอยจนกว่าพระนารายณ์อวตารมาพบ พระรามแผลงศรเป็นฝนดับไฟช่วยให้นางพ้นสาปกลับขึ้นสวรรค์ กษัตริย์ทั้งสามเดินทางต่อไปจนถึงอาศรมพระฤษีอรรคตะ พระฤษีถวายเกราะแก้วสุรกาญจน์ของพระศิวะคราวที่ปราบยักษ์ตรีบุรำให้พระราม จากนั้นพระราม พระลักษณ์ และนางสีดา เดินทางต่อไปจนพลบค่ำก็พักบรรทมใต้ต้นโศกใหญ่ พระอินทร์เห็นว่าทั้งสามพระองค์ไม่มีอาศรมสำหรับบำเพ็ญพรต จึงเนรมิตอาศรม ๓ หลังที่ริมฝั่งแม่น้ำโคธา และจารึกอักษรไว้ที่บานประตู รุ่งเช้า ทั้งสามพระองค์เดินทางมาถึงแม่น้ำโคธา เห็นอาศรม ๓ หลัง และอ่านอักษรที่จารึกไว้ ทราบว่าพระอินทร์เนรมิตให้เป็นที่บำเพ็ญพรต จึงเสด็จลงสรงน้ำและเข้าประทับในอาศรมนั้น

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทวยเทพออกโอษฐอ้าง”